รายการพิเศษ
Q:ทำไม TIMO BOLL ถึงยังคงแข็งแกร่ง
A:โฟร์แฮนด์ท็อปสปินที่มีความหมุนมากจากทั้งสองฝั่งของโต๊ะ
TIMO BOLL (จากเยอรมนี) ได้ขึ้นไปเป็นมือ 1 ของโลก เมื่อเดือนมีนาคม 2018
และได้มีนักกีฬาเยาวชนดาวรุ่งอีกหลายคนที่จะเริ่มจะฉายแสงในวงการเทเบิลเทนนิสเกิดขึ้นมาอย่างเรื่อยๆ
ถึงแม้วงการเทเบิลเทนนิสจะมีการเปลี่ยนเปลงกฎต่างๆอยู่ตลอดเวลา ความแข่งแกร่งของเขาก็ยังคงไม่หายไปไหน
ถึงแม้เขาจะอายุ 37 แล้วก็ตาม ถึงยุคที่เป็นยุคที่ดุเดือดของวงการเทเบิลเทนนิส มันก็ยิ่งทำให้เขากลายเป็นมากกว่า “คนพิเศษ”
เราจะหาคำตอบว่าจุดแข็งของ TIMO BOLL จากอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง Seiva kishikawa (จากญี่ปุ่น)
เขาเคยเป็นคู่ซ้อมของ TIMO BOLL และยังได้เจอหน้าคลาดตากันในหลายๆแมชท์
อีกทั้งเรายังให้ TIMO BOLL ได้วิเคราะห์ตัวเองด้วยเช่นกัน
คราวนี้อยากให้เรามาทำความรู้จักกับความสำคัญของการโจมตีโดยใช้ลูกท็อปสปิน
จากทั้งสองฝั่งของโต๊ะหลังจากตีท็อปสปินลูกแรกไป ซึ่งเป็นสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Timo Boll
สักขีพยานโดยคุณ Seiva Kishikawa
“ เราไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากบล็อกลูกท็อปสปิน ของ Timo Boll
และจากนั้นเขาก็สามารถโจมตีกลับได้จากทั้งสองฝั่งของโต๊ะ ”
“ Timo Boll ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ตอนที่ผมไปเยอรมนีเป็นครั้งแรก ขณะนั้นผมอยู่เกรด 8
ซึ่งเขาแข็งแกร่งก็อยู่แล้ว ผมดูการเล่นของเขาด้วยความชื่นชมอย่างมาก
เพราะเขาสามารถตีลูกท็อปสปินโดยใช้ทั้งโฟร์แฮนด์และแบ็คแฮนด์ได้อย่างเท่าเทียมกันจากที่ใดก็ได้บนโต๊ะ และสามารถตีลูกจากใกล้หรือกลางโต๊ะได้ ”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตีท็อปสปินของเขา จังหวะที่กระทบกลูกนั้น เขาได้ใส่การหมุนหนักหน่วงไว้บนลูก
ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เล่นญี่ปุ่นไม่สามารถที่จะทำได้ นอกจากนี้การตีลูกของเขาจุดตกของลูกอยู่ในตำแหน่งค่อนข้างต่ำและสั้น
ซึ่งเป็นการยากที่จะสามารถตีโต้กลับได้ ดังนั้นผู้เล่นอีกฝ่ายจึงจำเป็นต้องรับกลับด้วยมาการบล็อกลูก
ซึ่งจะสามารถทำให้เขาโจมตีกลับได้หลายรูปแบบ เพราะอีกฝ่ายได้กลายเป็นผู้เสียเปรียบแล้ว
การประเมินตนเอง โดย TIMO BOLL
“ โอกาสจะเกิดขึ้นหากคุณสามารถตีลูกท็อปสปินให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ”
” ผมจะพยายามที่จะตีลูกแรกให้ตกบนโต๊ะด้วยความแม่นยำและมีคุณภาพที่ดี แต่ก็ยังเล่นอย่างระวังอยู่
ปกติผมจะได้โอกาสดีในการโจมตีครั้งที่สอง ลูกนี้จะสามารถโจมตีได้ง่ายขึ้นเพราะไม่มี backspin
ปกติฝ่ายตรงข้ามทำเพียงแค่บล็อกและมันเง่ายที่ผมตะตีกลับไป
ความแตกต่างนั้นค่อนข้างเยอะ ดังนั้นมันจึงยิ่งยากสำหรับฝ่ายตรงข้ามที่จะการปรับมุมความเร็วและจังหวะ “
” ปิงปองเป็นเรื่องเกี่ยวกับจังหวะ และถ้าคุณมีจังหวะกับความเร็ว คุณมีโอกาสที่ดีที่จะชนะได้ “
” การโจมตีด้วยท็อปสปินของ Timo Boll ที่มีความหมุน จากทั้งสองฝั่งของโต๊ะ “
จุดที่ 1 ก้าวถอยหลังออกไป และตั้งใจกับลูกต่อไปที่จะตีหลังจากที่ตีลูกท็อปสปิน
ท็อปสปินด้วยการหมุนหนักและเร็ว การผสมผสานท็อปสปินทั้งสองแบบนี้ทำให้เกิดความหลากหลายในการตี
รวมถึงสปิน,ความเร็วและวิถีลูก ซึ่งทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถจับทางเราได้ นั่นคือสไตล์ของ Timo Boll
Timo Boll พูดถึงการตีลูกท็อปสปินปรกติให้เป็นท็อปสปินที่รวดเร็ว :
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดคือ นักกีฬาจะตีลูกท็อปสปินและพวกเขาหวังว่าจะได้แต้มจากการตีลูกท็อปสปินครั้งแรก
ซึ่งอาจจะไม่เป็นเช่นนั้น หากเราไม่เตรียมพร้อม
กุญแจสำคัญคือการโจมตีครั้งที่สองนั้นต้องก้าวถอยหลังออกไปเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเล่นลูกต่อไป
Timo Boll ให้ความเห็นว่า มันป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องมีระยะห่างจากโต๊ะที่เหมาะสม
หลังจากการตีลูกท็อปสปิน โดยการทำเช่นนี้คุณจะได้มีพื้นที่เพียงพอ คุณสามารถมีพื้นที่ในการเหวี่ยงแขน
และมีเวลาเพียงพอในการเตรียมตัว มันจะกลายเป็นเรื่องง่ายในการตีลูกต่อไป
**ระวังอย่ายืนตัวตรงเกินไป และอย่าลืมที่จะตั้งไม้ให้สูงและยกเอวขึ้นในขณะที่ก้าวออกจากโต๊ะ
จุดที่ 2 การตีลูกท็อปสปินที่เร็ว ให้ตีลูกแบบปิดหน้าไม้
จุดที่เราสามารถเรียนรู้ได้จาก Timo Boll เพื่อให้การตีของเราเกิดประสิทธิภาพ เราควรตีโดยการการขยับแขนในแนวราบ
หลังจากที่เตรียมตัวสำหรับการตีจังหวะต่อไป ให้ยกขาไปข้างหลังเพื่อรักษาระยะห่างจากโต๊ะ
แล้วตีลูกท็อปสปิน ในกรณีนี้ถ้าคุณยกแขนขึ้นบนเกินไปลูกจะออกนอกโต๊ะได้
ให้เตรียมความพร้อมโดยการวางไม้ในตำแหน่งที่สูงและปิดหน้าไม้ในขณะตี
จะมีโอกาสน้อยที่จะทำให้เกิดข้อผิดพลาด รวมทั้งความเร็วขอลูกยังจะเพิ่มขึ้นด้วย